วันนี้ (วันพุธที่ 4 มิถุนายน2568) เวลา 10.00 น. ณ อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร้อยตำรวจเอก สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ/โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 32/2568
กรณีการสอบสวนดำเนินคดีความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (นอมินี) ของกิจการร่วมค้าที่ก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เกิดเหตุถล่มหลังจากมีเหตุแผ่นดินไหวฯได้ชี้แจงการดำเนินการสอบสวนในกรณีดังกล่าวเพิ่มเติม โดยที่มีการเผยแพร่ข่าวสาร “DSI ส่งสำนวนกรณีฮั้วฯ ตึก สตง. ให้ ป.ป.ช.” นั้น
สืบเนื่องจากการประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษสรุปผลการดำเนินการสอบสวนคดีที่ 32/2568 เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้มีความเห็นทางคดีเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 (นอมินี) ทั้งหมด 5 ราย ต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และดำเนินการส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการแล้ว และต่อมาที่ประชุมได้ดำเนินการแยกสำนวนการสอบสวนเป็น 2 สำนวนได้แก่ สำนวนแรก เป็นการดำเนินคดีการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (นอมินี) ซึ่งต่อเนื่องหรือเกี่ยวพันกัน และสำนวนที่สองเป็นการดำเนินการสอบสวนความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (คดีฮั้วประมูลฯ) โดยมีการแยกเลขคดีเป็นคดีพิเศษที่ 58/2568 คดีดังกล่าวคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ทำการสอบสวนพบว่ามีพฤติการณ์ และหลักฐานเกี่ยวกับ การดำเนินการควบคุมงานของบริษัท PKW ที่ปรากฏว่าในส่วนของบุคลากรพบมีการปลอมลายมือชื่อและอ้างชื่อบุคคลอื่นซึ่งไม่เป็นไปตาม TOR มาดำเนินการเสนอราคาเพื่อให้ได้รับการคัดเลือก ซึ่งคุณสมบัติของบุคลากรตาม TOR นั้นหมายถึง บุคลากรที่ผู้ยื่นข้อเสนอได้นำมาเสนอต่อสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินจะต้องเป็นบุคคลที่มีคุณวุฒิประสบการณ์อันจะสามารถควบคุมงานได้จริงตลอดจนการทำงานได้เสร็จสิ้นตามวัตถุประสงค์การที่ผู้ต้องหากับพวกได้ใช้กลอุบายหลอกลวงนำชื่อของบุคคลอื่นโดยที่เต็มใจหรือไม่เต็มใจหรือไม่มีการเข้าร่วมงานจริงภายหลังที่ได้รับงานซึ่งเป็นเจตนาที่เห็นได้ชัดว่ามิได้มีความสุจริตในการจะเข้าเสนอราคากับหน่วยงานของรัฐโดยร่วมกันใช้กลอุบายหลอกลวงเพื่อหวังประโยชน์อันเป็นเงินได้จากการรับงานโดยไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและประเทศชาติ จึงมีการกล่าวหาดำเนินคดีกับบริษัท PKW รวมแล้ว 6 คน ตามมาตรา 4 และมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 ประกอบกับมีบุคคล (ปกปิดนาม) จำนวน 2 รายกล่าวหาเจ้าพนักงานของรัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แบ่งได้ทั้งหมด 3 กลุ่ม ดังนี้ 1.กลุ่มผู้บริหารองค์กรอิสระ 2. กลุ่มคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการจ้างออกแบบ จ้างก่อสร้าง และจ้างควบคุมงาน ทั้งหมด 10 คณะ และ 3. กลุ่มคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นการกล่าวหาเจ้าพนักงานของรัฐกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ จึงอยู่ในหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่จะไต่สวนและวินิจฉัย ตามมาตรา 28 ประกอบมาตรา 61 และมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
พ.ศ. 2561 และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะดำเนินการส่งสำนวนดังกล่าว ไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยเร็ว ต่อไป
ที่มา PR กรมสอบสวนคดีพิเศษ เรียบเรียงโดย พิสิษฐ์ จิตอาสา
——————————————————————————————————————————————————-
เรื่องน่าอ่าน
DSI รวบเจ้าของบัญชีเทเลแกรม “กลุ่มรส-นิยม” คัดลอก เผยแพร่คลิปลามก อนาจารเด็กออนไลน์จัดการเงิน – ผลประโยชน์ครบวงจร
รมว.ยธ. เป็นสักขีพยาน DSI ส่งมอบทรัพย์สินที่ยึด อายัดในคดีพิเศษที่ 290/2565 กรณี หจก. พี มายเนอร์ คริปโตเคอเรนซี่ กรุ๊ป มูลค่ารวมกว่า 251 ล้านบาท ให้ ปปง. เฉลี่ยคืนผู้เสียหาย
DSI เผยแพร่คำพิพากษาคดีรุกป่าเขาปางก่อและป่าวังชมพู เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ 105 ไร่ ศาลจำคุก 4 ผู้ต้องหา คนละ 2 ปี สั่งรื้อถอนสิ่งก่อสร้างภายใน 3 เดือน และให้ชดใช้ กรมป่าไม้กว่า 3,000,000 บาท
ศิษย์เก่าสวนกุหลาบวิทยาลัย จัดกิจกรรมพี่ดูแลน้อง สนับสนุนการเรียนรู้สร้างแรงบันดาลใจ เส้นทางการมุ่งสู่ผู้พิพากษา
อลงกรณ์ เยือนปักกิ่งปาฐกถาพิเศษ อดีต 50 ปี มั่นคงสู่อนาคต 50 ปี ก้าวหน้า ในวาระครึ่งศตวรรษมิตรภาพไทย-จีน
สำนักงานเขตพระนคร ขอเชิญเที่ยวงานกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ ถนนคนเดินแพร่งภูธร ชุมชนแพร่งภูธร
DSI ยืนยันตอบหนังสือ กรณี “เบน สมิธ” ไม่มีหมายจับในคดีพิเศษจริง ส่วนมีประวัติเกี่ยวกับคดีอาญาอื่นหรือมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดอื่นไม่ ไม่สามารถยืนยันได้ !!
“อลงกรณ์-เอฟเคไอไอ.” วิเคราะห์โอกาสไทยภายใต้เศรษฐกิจสูงวัย (Silver Economy) ตอบโจทย์ “แก่ก่อนรวย” สู่สินทรัพย์ใหม่