วันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม 2568) เวลาประมาณ 06.00 น. ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ได้จับกุม นางสาวกนกอร (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 3036/2568 ลงวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 คดีพิเศษที่ 118/2566
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนด้วยการแสดงตนเป็นคนอื่น ร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณถนนในพีซีพี ตำบลตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ซึ่งเจ้าพนักงานชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามประมวลกฎหมาย
วิธีพิจารณาความอาญา และรวมถึงแจ้งว่าต้องบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องในขณะจับกุมและควบคุมตัวจนกระทั่งส่งมอบตัวให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและ
การกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ผู้ต้องหารับทราบแล้ว จึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษผู้รับผิดชอบดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
คดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษที่ 118/2566 ของกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรณี แก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ สร้างเว็บไซต์หลอกหลวงให้ซื้อสินค้า/บริการที่ไม่มีอยู่จริงกว่า 2,000 เว็บ มูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท โดยนางสาวกนกอรฯ เป็นผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้เป็นรายที่ 12 จากจำนวน 24 ราย มีพฤติการณ์เป็นสมาชิกเครือข่ายแก๊งสแกมเมอร์แคเมอรูน ที่ทำหน้าที่จัดตั้งบริษัทปลอม จำนวน 29 บริษัท ร่วมกับนายอนุชาติ และนางสาวจันทรัตน์ ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ โดยนางสาวกนกอรฯ ใช้ชื่อตนเองจดทะเบียนเข้ามาเป็นกรรมการในบริษัทปลอม 2 บริษัท ทั้งนี้ บริษัทปลอมจำนวน 8 ใน 29 บริษัท แก๊งสแกมเมอร์ได้นำไปใช้หลอกลวงให้ผู้เสียหายทำการโอนเงินมายังบัญชีธนาคารที่คนร้ายได้เปิดบัญชีไว้ โดยมีการแจ้งความร้องทุกข์ในพื้นที่ต่าง ๆ กว่า 8 คดี ในพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลดอนเมือง สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ สถานีตำรวจนครบาลคลองตัน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สถานีตำรวจภูธรบางแก้ว สถานีตำรวจภูธรเกาะพงัน สถานีตำรวจภูธรฉลอง สถานีตำรวจนครบาลโชคชัย โดยเฉพาะสถานีตำรวจนครบาลโชคชัย ที่มีการใช้ชื่อบริษัท ชิน ไทย สแครบ (ทีเอช) จำกัด ไปหลอกหลวงให้บริษัท ยู แอนด์ ไอ โลจิสติกส์-เจเอสซี จำกัด (นิติบุคคลสัญชาติเวียดนาม) ให้โอนเงินค่าระวางเรือ จำนวน 1,071,700 บาท มายังบัญชีธนาคารของบริษัท จากนั้นนางสาวกนกอรฯ ได้เป็นผู้ถอนเงินสดที่ธนาคารทันทีแล้วส่งต่อไปยังพวกของตน
ที่มา PR กรมสอบสวนคดีพิเศษ เรียบเรียงโดย พิสิษฐ์ จิตอาสา
——————————————————————————————————————————–




เรื่องน่าอ่าน
สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย จังหวัดนนทบุรี ร่วมจัดกิจกรรม “Night Talk” เสริมพลังเครือข่ายเอกชน เชื่อมโยงความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก
DSI ผนึกกำลังจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตรวจสอบนอมินีต่างชาติ สมุย – พะงัน
“ไฮโดรเจน อีโคโนมี : เศรษฐกิจแสนล้านฐานพลังงานแห่งอนาคตของไทย” ในมุมมองของ “มิสเตอร์เอทานอล-อลงกรณ์”
DSI จับกุมผู้ต้องหาค้ามนุษย์ในขบวนการสแกมเมอร์ข้ามชาติ ลวงเหยื่อไปทำงานที่ประเทศฟิลิปปินส์เพิ่มอีกราย
DSI รวบเจ้าของบัญชีเทเลแกรม “กลุ่มรส-นิยม” คัดลอก เผยแพร่คลิปลามก อนาจารเด็กออนไลน์จัดการเงิน – ผลประโยชน์ครบวงจร
รมว.ยธ. เป็นสักขีพยาน DSI ส่งมอบทรัพย์สินที่ยึด อายัดในคดีพิเศษที่ 290/2565 กรณี หจก. พี มายเนอร์ คริปโตเคอเรนซี่ กรุ๊ป มูลค่ารวมกว่า 251 ล้านบาท ให้ ปปง. เฉลี่ยคืนผู้เสียหาย
DSI เผยแพร่คำพิพากษาคดีรุกป่าเขาปางก่อและป่าวังชมพู เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ 105 ไร่ ศาลจำคุก 4 ผู้ต้องหา คนละ 2 ปี สั่งรื้อถอนสิ่งก่อสร้างภายใน 3 เดือน และให้ชดใช้ กรมป่าไม้กว่า 3,000,000 บาท
ศิษย์เก่าสวนกุหลาบวิทยาลัย จัดกิจกรรมพี่ดูแลน้อง สนับสนุนการเรียนรู้สร้างแรงบันดาลใจ เส้นทางการมุ่งสู่ผู้พิพากษา