เตือนภัย! การระบาดของโควิด-19 สายพันธ์ใหม่ XBB.1.16: ดาวดวงแก้ว ที่แพร่เร็วกว่าเดิม

เตือนภัย! การระบาดของโควิด-19 สายพันธ์ใหม่ XBB.1.16: ดาวดวงแก้ว ที่แพร่เร็วกว่าเดิม

 

S 13262856
กรมวิทยาศาตร์การแพทย์ได้เปิดเผยว่าไทยได้พบโควิดสายพันธุ์ผสมXBB.1.16.แล้ว 27 รายและคาดว่าอาจจะแพร่เร็วกว่าXBB.1 และ XBB.1.5 ด้วยมีความสามารถที่หลบภูมิคุ้มกันที่ใกล้เคียงกัน แต่ยังไม่พบข้อมูลความความรุนแรงเพิ่มของสายพันธุ์XBB.1.16.

เมื่อวันที่18เมษายน2566  ณ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จ. นนทบุรี นายแพทย์ศุภกิจ  ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พร้อมด้วย นายแพทย์บัลลังก์ อุปพงษ์ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ ดร.พิไลลักษณ์ อัคคไพบูลย์ โอกาดะ นักวิทยาศาสตร์การแพทย์เชี่ยวชาญ แถลงข่าวอัพเดทสถานการณ์การเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด 19 และสายพันธุ์ที่เฝ้าติดตาม ในประเทศไทย ว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ร่วมกับเครือข่ายห้องปฏิบัติการ ติดตามการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์เชื้อไวรัส SARS-CoV-2 พบเชื้อไวรัสมีการกลายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง สำหรับสายพันธุ์ที่องค์การอนามัยโลกติดตามใกล้ชิดในปัจจุบัน ได้แก่
• สายพันธุ์ที่เฝ้าระวัง หรือ Variants of Interest (VOI) 1 สายพันธุ์ ได้แก่ XBB.1.5
• สายพันธุ์ที่ต้องจับตามอง หรือ Variants under monitoring (VUM) 7 สายพันธุ์ ได้แก่ BQ.1*, BA.2.75*, CH.1.1*, XBB*, XBB.1.16*, XBB.1.9.1* และ XBF*
นายแพทย์ศุภกิจ กล่าวว่า สถานการณ์สายพันธุ์ทั่วโลกในวันที่ 20-26 มีนาคม 2566 ได้ตรวจพบสายพันธุ์XBB.1.5 ใน 95 ประเทศ
สำหรับประเทศไทย สัปดาห์ที่ 8-14 เมษายน 2566  โดย XBB.1.16* พบในตัวอย่างจากผู้ติดเชื้อช่วงเดือนมีนาคม 2566 จำนวน 22 ราย และเดือนเมษายน 2566 จำนวน 5 ราย (XBB.1.16 = 26 ราย และ XBB.1.16.1 = 1 ราย) รวม 27 ราย โดยความรุนแรงของโรคสายพันธุ์ดาวดวงแก้ว (XBB.1.16) จากอินเดียไม่ได้รุนแรงไปกว่าสายพันธุ์เดิม แต่แพร่ระบาดง่าย เมื่อมีผู้ป่วยจำนวนมากก็ต้องพบผู้ป่วยอาการมากเป็นอัตราส่วนปกติ มีอาการบางอย่างแตกต่างไปบ้าง เช่น ตาแดงในเด็ก
นอกจากนี้ นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า มีรายงานผู้ป่วยปอดอักเสบ 30 ราย และผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 19 ราย เพิ่มขึ้น 58% และ 36% ตามลำดับ เปรียบเทียบกับสัปดาห์ก่อน โดยสัปดาห์ล่าสุด มีรายงานผู้เสียชีวิต 2 ราย และล้วนเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้วนานเกินกว่า 3 เดือน จึงเรียกร้องให้กลุ่มเสี่ยงเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
ขอความร่วมมืองดเข้าในพื้นที่แออัดและผู้คนจำนวนมาก ล้างมือและงดสัมผัสสิ่งที่มีคนใช้จำนวนมาก

ขอบคุณข้อมูลจาก
กระทรวงสาธารณสุข
https://www.bbc.com/thai/articles/cje5e3z0xz7o  BBC NEWS ไทย
https://www.thairath.co.th/news/local/2682458 ไทยรัฐออนไลน์

 เรียบเรียงโดย ภัทรนันท์ แซ่ตั๊ง

เรื่องน่าอ่าน